เลเบล คืออะไร มารู้จักกับกุญแจสำคัญที่ช่วยไขประตูสู่อนาคตแห่งข้อมูลกัน

เลเบล คือ

เลเบล ทำหน้าที่เป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญ สำหรับผลิตภัณฑ์ และสินค้าต่างๆ โดยจะให้ข้อมูลสำคัญในพริบตา โดยทั่วไปแล้ว เลเบลจะประกอบไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิตส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ คำแนะนำการใช้งาน และบางครั้งอาจมีแนวทางการกำจัดทิ้ง เลเบลอาจใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น กระดาษ ฟิล์มพลาสติก ผ้า หรือโลหะ และสามารถติดไว้ที่ภาชนะบรรจุ หรือตัวผลิตภัณฑ์เอง เลเบลมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเลเบลสื่อสารข้อมูลที่มีค่า ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

ในเชิงพาณิชย์ เลเบลไม่ได้ให้ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีจุดประสงค์ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์อีกด้วย เลเบลสามารถออกแบบด้วยสี โลโก้ และกราฟิกเฉพาะ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น และดึงดูดผู้ซื้อที่มีศักยภาพ นอกเหนือจากการใช้งานจริงในการระบุตัวตน และเผยแพร่ข้อมูลแล้ว เลเบลยังมีความสำคัญทางกฎหมายอีกด้วย หน่วยงานกำกับดูแลอาจกำหนดให้เลเบลต้องมีข้อมูลเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคปลอดภัย และผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

สารบัญ

1. พื้นฐานการติดเลเบล

2. การติดเลเบลในบริบทต่างๆ

3. องค์ประกอบการออกแบบ และเนื้อหา

4. มาตรฐาน และข้อกำหนดการติดเลเบล

5. การผลิต และติดเลเบล

6. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการติดเลเบล

7. ความท้าทาย และแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการติดเลเบล

8. บทสรุป

พื้นฐานการติดเลเบล

พื้นฐานการติดเลเบล ครอบคลุมคุณลักษณะหลักที่กำหนดเลเบล วัตถุประสงค์ในการใช้งานที่หลากหลาย และประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด

นิยาม

เลเบลหมายถึงชิ้นส่วนของวัสดุที่มีข้อมูลที่พิมพ์ เขียน หรือภาพกราฟิกที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ หรือบรรจุภัณฑ์ เป็นส่วนประกอบสำคัญของบรรจุภัณฑ์ ที่ไม่เพียงแต่ระบุผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่ผู้บริโภค หรือผู้ที่ปฏิบัติงานอีกด้วย

จุดประสงค์ และหน้าที่

เลเบล ทำหน้าที่หลายอย่าง จำเป็นสำหรับการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ เช่น ส่วนผสม คำแนะนำการใช้งาน และรายละเอียดของผู้ผลิต นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการตลาด เนื่องจากช่วยในการสร้างแบรนด์ให้กับผลิตภัณฑ์ และดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค นอกจากนี้ เลเบลยังสามารถให้การปกป้องโดยสรุปคำแนะนำในการจัดการ หรือข้อมูลอายุการเก็บรักษา

  • ให้ข้อมูล : แสดงรายการส่วนผสม วันหมดอายุ ฯลฯ
  • การตลาด : ใช้สี โลโก้ และกราฟิกส่งเสริมการขายของแบรนด์
  • การป้องกัน : ให้คำแนะนำในการจัดการ และความปลอดภัย

ประเภทของเลเบล

มีเลเบลหลายประเภทที่ออกแบบมา เพื่อให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ และวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ประเภทหลัก ได้แก่

  • เลเบลถาวร : ได้รับการออกแบบมาให้ติดอยู่กับพื้นผิวตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ มักจะทนต่อสภาวะที่รุนแรง โดยไม่เสื่อมสภาพ
  • เลเบลแบบถอดได้ : สามารถถอดออกได้ง่าย โดยไม่ทิ้งคราบตกค้าง หรือทำลายพื้นผิวที่ติดอยู่
  • เลเบลอัจฉริยะ : ผสมผสานเทคโนโลยี เช่น แท็ก RFID, รหัส QR หรือ NFC ซึ่งให้การโต้ตอบที่ดีขึ้น หรือความสามารถในการติดตาม

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างเฉพาะ และลักษณะของเลเบล สามารถพบได้ในแหล่งข้อมูลต่างๆ

การติดเลเบลในบริบทต่างๆ

การติดเลเบลมีหน้าที่ ที่แตกต่างกันในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยให้ข้อมูลสำคัญ และช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้ผลิต และผู้บริโภค

สินค้าอุปโภคบริโภค

ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค การติดเลเบลเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการสื่อสารข้อมูลผลิตภัณฑ์ การติดเลเบลช่วยให้ผู้ผลิตสามารถแจ้งส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ คำแนะนำการใช้งาน และความเสี่ยงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ เลเบลอาจมีตั้งแต่ป้ายธรรมดา ไปจนถึงเลเบลบนบรรจุภัณฑ์ที่ละเอียด โดยมีข้อมูลทางโภชนาการ วันหมดอายุ และไอคอนที่แสดงถึงการปฎิบัติตามกฎระเบียบ

ส่วนต่อประสานดิจิทัล

สำหรับส่วนต่อประสานดิจิทัล (digital interfaces) เลเบลมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ด้วยการระบุจุดประสงค์ของส่วนประกอบต่างๆ บนส่วนต่อประสานนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงฟังก์ชันของปุ่ม หรือข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องใส่ลงในแต่ละช่องสำหรับแบบฟอร์ม เลเบลจะช่วยนำทางผู้ใช้ผ่านระบบดิจิทัลนั้นๆ ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ

การติดเลเบลอุตสาหกรรม

การติดเลเบลอุตสาหกรรมมีชุดมาตรฐาน และข้อกำหนดของตัวเอง ซึ่งส่วนมากถูกควบคุมโดยข้อบังคับด้านความปลอดภัย และวิธีการปฏิบัติงานในสถานที่ทำงาน เลเบลเหล่านี้ ใช้กับอุปกรณ์ เครื่องจักร และสารเคมี โดยให้ข้อมูลความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น การระบุอันตราย ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และคำแนะนำในการใช้งาน เลเบลจะช่วยไม่เพียงแค่ทำให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ยังรวมถึงรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย

องค์ประกอบการออกแบบ และเนื้อหา

องค์ประกอบการออกแบบ และเนื้อหาบนเลเบล ไม่ได้เป็นเพียงตัวกำหนดความสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้งาน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านแบรนด์ และข้อบังคับต่างๆ ด้วย

การออกแบบเชิงภาพ

การออกแบบเชิงภาพของเลเบล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดึงดูดความสนใจ และสื่อสารข้อความของแบรนด์ เลเบลควรใช้โทนสี และตัวอักษรที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะจดจำได้ในทันที ดังที่ได้กล่าวไว้ในคู่มือการออกแบบเลเบลฉบับสมบูรณ์จาก 99designs , แต่ละองค์ประกอบด้านการออกแบบ ต้องถูกจัดวางให้เป็นระเบียบในแต่ละเลเยอร์ที่แยกกัน และต้องมีการระบุชื่อที่ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยน ลำดับขั้นทางสายตาถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยข้อมูลที่มีความสำคัญสูงสุด เช่น ชื่อแบรนด์ และโลโก้ จะต้องมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

องค์ประกอบของเนื้อหา

เลเบล มีหน้าที่ในการให้ข้อมูลโดยอธิบายรายละเอียดของสินค้า และให้ข้อมูลที่สำคัญ สิ่งสำคัญ คือ เลเบลต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง และกระชับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หลีกเลี่ยงความยุ่งเหยิง ตามบทความในบล็อกของ LogRocket ข้อความที่เป็นการอธิบายบนเลเบล เช่น การกระตุ้นให้เกิดการซื้อ (CTA) ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจจุดประสงค์ของผลิตภัณฑ์ หรือส่วนประกอบของอินเตอร์เฟส ข้อมูลควรได้รับการจัดเรียงอย่างมีเหตุผลด้วยฟอนต์ที่อ่านง่าย และชัดเจน และควรมีองค์ประกอบต่างๆ เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ คำอธิบาย และคำแนะนำหากจำเป็น

ข้อพิจารณาเรื่องวัสดุ

การเลือกใช้วัสดุสำหรับเลเบล ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การสัมผัสเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความคงทน และความชัดเจนในการอ่านอีกด้วย วัสดุที่มีความมันวาว อาจได้รับการเลือกใช้ เนื่องจากให้สีสันที่สดใส และทนทานต่อความชื้น ในขณะที่วัสดุผิวด้านจะให้ความรู้สึกที่หรูหรา และลดแสงสะท้อน สภาพแวดล้อมของเลเบล เช่น การได้รับแสงแดด หรือสารเคมี ควรถูกนำมาใช้ประกอบการเลือกใช้วัสดุ เลเบลจะต้องคงทนต่อสภาวะที่ต้องเผชิญ ซึ่งก็ได้มีการอธิบายไว้แล้วในบล็อกของ Meyers เกี่ยวกับเลเบลผลิตภัณฑ์ ที่ได้มีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน และการจัดเก็บผลิตภัณฑ์

มาตรฐาน และข้อกำหนดการติดเลเบล

มาตรฐาน และข้อกำหนดการติดเลเบล ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ ช่วยรักษาความโปร่งใส และความสม่ำเสมอในตลาดต่างๆ

มาตรฐานสากล

มาตรฐานสากล สำหรับการติดเลเบล ได้รับคำแนะนำจากองค์กรต่างๆ เช่น Codex Alimentarius ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดย FAO และ WHO มาตรฐานเหล่านี้ จัดเตรียมกรอบการติดเลเบลอาหารที่ประเทศสมาชิก สามารถนำไปใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และรับรองความปลอดภัยของอาหาร ตัวอย่างเช่น เลเบลต้องแสดงข้อมูลหลัก เช่น ชื่ออาหาร ปริมาณสุทธิ การแสดงวันที่ และข้อมูลผู้ผลิต

ข้อบังคับเฉพาะอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน มักจะมีสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลของตนเองสำหรับการติดเลเบล ในอุตสาหกรรมอาหาร แนวทางการติดเลเบลอาหาร และโภชนาการที่จัดทำโดย FDA มีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับอาหารภายใต้พระราชบัญญัติอาหาร ยา และเครื่องสำอางของรัฐบาลกลาง ในทำนองเดียวกัน หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหาร และการตรวจสอบ (FSIS) ให้คำแนะนำในการติดเลเบลสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และไข่ในสหรัฐอเมริกา

การผลิต และติดเลเบล

การผลิต และติดเลเบล เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยต้องอาศัยความแม่นยำ และประสิทธิภาพ กระบวนการเหล่านี้ ไม่ได้เพียงกำหนดตราสินค้า และการถ่ายทอดข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อกระบวนการผลิต และการจัดการสินค้าคงคลัง

วิธีการผลิต

การพิมพ์เฟล็กโซ (Flexography) เป็นวิธีในการผลิตเลเบล ซึ่งได้รับความนิยม เนื่องจากความอเนกประสงค์สำหรับใช้กับพื้นผิววัสดุที่หลากหลาย ในการพิมพ์เฟล็กโซนั้น แม่พิมพ์นู้นสูงแบบอ่อนจะถูกใช้เพื่อพิมพ์ลวดลายเลเบล วิธีนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องความสามารถผลิตเลเบลจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงใช้หมึกได้หลายชนิด

การพิมพ์ดิจิทัล (Digital printing) เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ถูกเลือกใช้บ่อยครั้ง เนื่องจากมีเวลาดำเนินการที่สั้นลง มีต้นทุนการติดตั้งที่ต่ำกว่า และมีความยืดหยุ่นในการผลิตงานจำนว่นน้อย นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ผลิตสามารถพิมพ์เลเบลคุณภาพสูงได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์ หรือการติดตั้งที่ยุ่งยาก ทำให้การพิมพ์ดิจิทัลเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการออกแบบเลเบลแบบกำหนดเองเฉพาะ หรือแบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

วิธีการติดเลเบล

การเลือกใช้วิธีการติดเลเบลจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงปริมาณการผลิต วัสดุเลเบล และรูปทรงของภาชนะบรรจุ การติดเลเบลด้วยมือ อาจเพียงพอสำหรับปริมาณงานที่น้อยกว่า โดยใช้การวางเลเบลลงบนผลิตภัณฑ์ด้วยมือ วิธีนี้ได้ประโยชน์จากการลงทุนที่น้อย แต่การใช้แรงงานสูงนั้นอาจจะทำให้กระบวนการผลิตโดยรวมช้าลง

สำหรับปริมาณการผลิตที่สูงกว่า เครื่องติดเลเบลอัตโนมัติ จึงจำเป็น เครื่องเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจว่าการจัดวางเลเบลจะมีความสม่ำเสมอ และยังสามารถจัดการกับขนาดของเลเบล และรูปทรงของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันได้ เลเบลที่ไวต่อแรงกดถือเป็นชนิดทั่วไปที่ได้รับเลือกใช้กับเครื่องติดเลเบลอัตโนมัติ เนื่องจากด้านหลังที่มีกาว ซึ่งจะยึดเลเบลไว้แน่นเมื่อสัมผัสโดยไม่ต้องใช้ความร้อน หรือน้ำ

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการติดเลเบล

อุตสาหกรรมการติดเลเบล มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มการปรับแต่ง ปฏิสัมพันธ์ และความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

เลเบลอัจฉริยะ

เลเบลอัจฉริยะ (Smart Labels) ถือเป็นการก้าวกระโดดในเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ โดยฝังคุณสมบัติทางดิจิทัล เช่น แท็ก RFID, รหัส QR และความสามารถของ NFC นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผลิตภัณฑ์สื่อสารกับอุปกรณ์ของผู้บริโภคได้ โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติม การตรวจสอบย้อนกลับ และการรับรองความถูกต้อง

นวัตกรรมด้านเลเบลที่ยั่งยืน

แนวทางสู่ความยั่งยืนได้กระตุ้นการพัฒนาวัสดุ และกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการติดเลเบล นวัตกรรมดังกล่าวรวมถึงเลเบลที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ และย่อยสลายได้ ส่งเสริมรอยเท้าทางนิเวศวิทยาที่เล็กลงในขณะที่ยังคงคุณภาพ และความทนทานของเลเบลแบบดั้งเดิมไว้

ความท้าทาย และแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการติดเลเบล

ในขอบเขตข้อมูล และการติดเลเบลผลิตภัณฑ์ ความท้าทายบางประการ อาทิ ความสามารถในการอ่าน และความทนทาน จำเป็นต้องมีแนวทางการแก้ไขที่เฉพาะเจาะจง เพื่อประสิทธิผลสูงสุด

ปัญหาความสามารถในการอ่าน

เมื่อพูดถึงความสามารถในการอ่านนั้น เลเบลจะต้องมีความชัดเจน และอ่านออกง่าย ความท้าทายมักเกิดจากตัวอักษรที่เล็กเกินไป ความคมชัดระหว่างพื้นที่ต่างๆ ไม่เพียงพอ หรือรูปแบบตัวอักษรที่ซับซ้อน เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แนวทางอาจรวมถึงการเลือกใช้แบบตัวอักษรตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด การสร้างความคมชัดสูงระหว่างตัวอักษร และพื้นหลัง รวมถึงการทำให้รูปแบบองค์ประกอบต่างๆ เรียบง่ายขึ้น เพื่อช่วยในการดึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว บทความใน Dataversity เกี่ยวกับความท้าทายในการติดเลเบล ได้เน้นย้ำถึงความซับซ้อน และหลากหลายของการติดเลเบลชุดข้อมูล ซึ่งเชื่อมโยงมายังประเด็นความสามารถในการอ่านที่กว้างขึ้น

ข้อกังวลเกี่ยวกับความทนทาน

ความทนทานของเลเบลเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในด้านโลจิสติกส์ และการผลิต เลเบลต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันหลายรูปแบบ อาทิ ความชื้น ความผันผวนของอุณหภูมิ และการจัดการ ซึ่งอาจทำให้เลเบลสีซีด เลอะ หรือลอกออกได้ แนวทางแก้ไขปัญหานี้ อาจรวมถึงการใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน เช่น ฟิล์มโพลีโพรพิลีน หรือโพลีเอสเตอร์ และสารเคลือบป้องกัน หรือการเคลือบลามิเนตที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเลเบล Seagull Scientific ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความท้าทายในการติดเลเบลบนห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรวมไปถึงการพูดคุยเกี่ยวกับการทำให้เลเบลยังคงความทนทาน และเป็นไปตามข้อกำหนดต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก

บทสรุป

เลเบลมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูล โดยพื้นฐานแล้ว เลเบลจะระบุผลิตภัณฑ์ หรือสิ่งของ ทำให้มีความแตกต่างจากสิ่งอื่นๆ ในตลาด เลเบลมักจะแสดงรายละเอียดสำคัญ เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ ส่วนผสม ผู้ผลิต และวิธีการใช้ รายละเอียดเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สำคัญต่อข้อมูลสำหรับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับโดยกฎระเบียบในหลายอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัย และความโปร่งใส

การออกแบบเลเบล ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญมาก การออกแบบที่ดีสามารถดึงดูดความสนใจ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้ เลเบลต้องมีคุณลักษณะตามมาตรฐานบางอย่าง เช่น ความอ่านง่าย และความทนทาน เพื่อให้ทนต่อสภาพการใช้งานได้

นอกจากนี้ เลเบลยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ โดยรวบรวมเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ในรูปแบบที่จับต้องได้ ผู้คนมักจะจดจำผลิตภัณฑ์จากเลเบล ดังนั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความภักดีของลูกค้า การรักษาความสม่ำเสมอของแบรนด์ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงมีความสำคัญ

ในบางบริบท เช่น กรณีที่เป็นวัตถุอันตรายนั้น เลเบลจะแสดงข้อความเตือน และข้อมูลความปลอดภัย ซึ่งเน้นให้เห็นถึงหน้าที่สำคัญของเลเบลในการสื่อสารความเสี่ยง และการปกป้องผู้ใช้งาน

สุดท้ายนี้ เลเบลสามารถบอกถึงความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับของสินค้า โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ผู้ผลิตจนถึงผู้ใช้ปลายทาง เลเบลมักจะมีการระบุหมายเลขประจำสินค้า บาร์โค้ด และ QR โค้ด ที่สามารถนำมาสแกน เพื่อติดตามสินค้าคงคลัง และข้อมูลการขาย ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของการจัดการห่วงโซ่อุปทาน

โดยสรุปแล้ว เลเบลเป็นเครื่องมือที่มีหลากหลายแง่มุม ที่ถ่ายทอดข้อมูลสำคัญที่หลากหลายแก่ผู้บริโภค หน่วยงานกำกับดูแล และผู้ผลิต เลเบลมีบทบาทสำคัญในด้านการค้า ความปลอดภัย และการสร้างตราสินค้า